สวัสดีปีใหม่ 2553

สวัสดีปีใหม่...2553

เถลิงศก..ดิถี..ในปีขาล

จิตเบิกบาน..การค้ารุ่ง..พุ่งจุดหมาย

ให้ก้าวหน้า..ดีเลิศ..เพริศทุกราย

สุขสบาย..ทรัพย์มากมาย..มาก่ายกอง

ถามคนเจ็บ..ว่าคลาย..หายสนิท

ถามคู่คิด..มาเร็วไว..ดั่งใจผอง

มีรถยนต์..คันวาววับ..ขับรับรอง

บุญส่งต้อง..เลื่อนชั้น..ท่านประธาน

ขอพรชัย..ให้เพื่อนพ้อง..และน้องพี่

ตลอดปี..ได้สมหวัง..ดั่งคำฉัน

ประสพสุข..พร้อมครอบครัว..ถ้วนทั่วกัน

ปีใหม่นั้น..จงพิพัฒน์..สวัสดี

สวัสดีหน้าหนาว

หน้าหนาวปีนี้ หนาวมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ใครไม่สบายอยู่ก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ใส่เสื้อกันหนาวหนา ๆ ก่อนนอนอย่าลืมห่มผ้าด้วยนะ จะได้หลับสบาย

กินวิตามินมากไปก็ไม่ดี

ถึงวิตามินจะมีประโยชน์ แต่วิตามินก็อาจกลายเป็นพิษ ถ้ากินมากเกินไป

1. วิตามินเอ มีมากใน เนื้อปลา น้ำมันตับปลา ผักผลไม้สีเหลือง สีส้ม สีแดง เช่น แครอท มะละกอ กล้วย บร็อคโคลี่ ร่างกายเราจะรับวิตามินเอได้สูงสุดที่ 1,500 ไมโครกรัม ถ้ากินมากกว่านี้จะมีอาการอาเจียน ผมร่วง ผิวหนังแห้งตกสะเก็ด ตับ กระดูก การมองเห็นถูกทำลาย ส่วนมากถ้ากินอาหารตามปกติจะได้รับวิตามินเอในระดับที่เหมาะสม แต่ถ้ากินอาหารเสริม ต้องอ่านให้ดีด้วยว่าแต่ละเม็ดมีวิตามินเอกี่ไมโครกรัม

2. วิตามินบี 6 มีมากในกล้วย ถั่วเหลือง เนื้อปลา และข้าวซ้อมมือ คนที่กินวิตามินบี 6 มากเกินไปจะรู้สึกว่าเดินเซ ควบคุมประสาทบางส่วนโดยเฉพาะมือเท้าไม่ค่อยได้ มือเท้าชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนอาจเดินไม่ได้ไปเลย ร่างกายเรารับวิตามินบี 6 ได้สูงสุดแค่ 14 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น

3. วิตามินซี มีมากใน ส้ม ฝรั่ง ผัก เชอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว ผลของการรับวิตามินซีมากไปจะทำให้ท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสีย มีกรดเกินในกระเพาะ และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นนิ่วในไตได้ ถ้ากินวิตามินซีเสริมก็ไม่ควรมากกว่าวันละ 1,000 ไมโครกรัม

4. วิตามินอี มีมากในจมูกข้าว น้ำมันพืช ผักใบเขียว ถั่ว และธัญพืช ถ้าคุณเริ่มมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว กล้ามเนื้อล้า แน่นท้อง ท้องร่วง แสดงว่าคุณได้รับวิตามินอีมากเกินไปแล้ว ส่วนมากเราจะได้รับวิตามินอีจากอาหารเสริม จึงต้องระวังไม่ให้เกินวันละ 560 มิลลิกรัม

เรียนรู้สู่ความชำนาญ

วันนี้ 23 พ.ย. 52 เริ่มเรียนการทำเว็บบล็อก ในวิชา นวัตกรรมทางการศึกษา จาก ครูหมง ที่หลาย ๆ คนรู้จักดี ต่อไปก็คงจะเก่งไปเอง